5 อันดับเกมแนว open world น่าลองปี 2018

1.Metal Gear Survive 2018

Metal Gear Survive เป็นอีกภาคเสริมของซีรีส์สายลับ Metal Gear ถึงแม้กระแสตอบรับจากแฟนๆไม่ค่อยจะดี แต่เรื่องราวที่ถูกวางไว้ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเป็นการเปลี่ยนโทนเรื่องออกแนวเกม Open World Survival การเผชิญหน้ากับสิ่งชีวิตที่อาจจะเรียกว่า ซอมบี้ เป็นภัยคุกคามหลักของโลก นอกจากนี้ผู้เล่นจำเป็นต้องออนไลน์ไว้ตลอดเวลาในขณะเล่นเกม โดยตัวเกมมีแผนวางจำหน่ายในปี 2018

2.Agents of Mayhem

แม้จะวางขายไปแล้วแต่เกม Agents of Mayhem จัดเป็นอีกหนึ่งผลงานเกมของสตูดิโอ Deep Silver ผู้สร้าง Saints Row การันตีความสนุกได้ในระดับหนึ่ง โดยตัวเกมมาในรูปแบบ pen-world action adventure เรื่องราวเกิดขึ้นในเมือง Seoul การผจญภัยของเหล่า MAYHEM เพื่อทำภารกิจต่างๆ ที่ทุกตัวละครจะมีพัฒนาการและปฏิสัมพันธ์ในด้านของเรื่องราวจนน่าติดตาม


3.Destiny 2

Destiny 2 เกมแนว MMOFPS ภาคต่อของเกมซีรี่ย์ Destiny ที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศทั่วโลก เรื่องราวการเดินทางของเหล่าตัวละครที่เรียกว่า Guardian ผู้ที่ได้รับเลือกมาเพื่อปกป้องเหล่ามนุษยชาติกับความสามารถพิเศษและอาวุธล้ำอนาคต รองรับการเล่นทั้งโหมด PvE และ PvP เพื่อต่อกรกับเหล่ากองทัพ Red Legion ยืนหยัดต่อสู้ป้องกันเมือง และชิงบ้านเกิดของพวกเขากลับคืนมา

4.Sea of Thieves 2018

Sea of Thieves การเดินทางของเหล่าโจรสลัดออกทะเลตามล่าขุมทรัพย์กับการเล่นแบบ co-op รองรับการเล่นข้ามแพลตฟอร์มระหว่าง Xbox One และ Windows PC โดยตัวเกมจำลองโลกของยุคโจรสลัดอันรุ่งเรืองที่ออกผจญภัยสู่มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ เพื่อค้นหาสมบัติตามตำแหน่งต่างๆ บนแผนที่ ตัวเกมใช้มุมมองเกมประเภท FPS ภาพกราฟฟิกสไตล์ตัวการ์ตูนน่ารักสดใส

5.State of Decay 2

State of Decay 2 สานต่อความสำเร็จของเกมแนวเอาชีวิตรอดท่ามกลางฝูงซอมบี้ จากสตูดิโอ Undead Labs ที่ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องต่อสู้อย่างเดียวดายเพียงลำพังอีกต่อไป โดยตัวเกมยังคงต้นฉบับของ State of Decay ภาคแรก แต่ได้เพิ่มคุณสมบัติแบบ Co-op สามารถเล่นออนไลน์ร่วมกับผู้เล่นคนอื่นได้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่ากลัวมากกว่าซอมบี้หลายเท่าคงจะเป็นผู้เล่นด้วยกันมีทั้งมิตรและศัตรู หรืออาจโดนเพื่อนร่วมทางหักหลังได้ตลอดเวลา